จัดฟันบางนา: การป้องกันฟันเหลือง มีวิธีไหนบ้างฟันเหลืองเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลสุขภาพช่องปาก การป้องกันฟันเหลืองจึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนนิสัยและดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
สาเหตุหลักที่ทำให้ฟันเหลือง
คราบอาหารและเครื่องดื่ม: การดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง หรือการรับประทานอาหารที่มีสีเข้มเป็นประจำจะทำให้เกิดคราบสีติดบนผิวฟัน
การสูบบุหรี่: สารนิโคตินและทาร์ในบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดคราบเหลืองและคราบดำบนฟัน
สุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี: การแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์ (Plaque) และหินปูนสะสม ซึ่งเป็นแหล่งของคราบเหลือง
อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นเคลือบฟันจะบางลง ทำให้เนื้อฟันชั้นในที่มีสีเหลืองเด่นชัดขึ้น
กรรมพันธุ์: โครงสร้างของฟันบางคนอาจมีสีเหลืองตามธรรมชาติ
วิธีการป้องกันฟันเหลือง
แปรงฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ:
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มและแปรงอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ทำลายผิวเคลือบฟัน
ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์และมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบได้ในระดับหนึ่ง
ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร:
ลดหรือหลีกเลี่ยง: การดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และไวน์แดง หากจำเป็นต้องดื่ม ควรใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัสโดยตรงกับผิวฟัน
บ้วนปากทันที: หลังรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสี ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทันที เพื่อชะล้างคราบสีและลดความเป็นกรดในช่องปาก
รับประทานผลไม้: ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิล หรือแครอท มีเส้นใยที่ช่วยขัดฟันตามธรรมชาติในขณะที่เคี้ยว
เลิกสูบบุหรี่:
นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันไม่ให้ฟันเหลืองและดำจากการสูบบุหรี่
พบทันตแพทย์เป็นประจำ:
ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและ ขูดหินปูน ทุกๆ 6 เดือน
การขูดหินปูนจะช่วยขจัดคราบเหลืองที่สะสมและไม่สามารถแปรงออกได้เอง ทำให้ฟันสะอาดขึ้น
การรักษาสำหรับฟันที่เหลืองไปแล้ว
หากฟันเหลืองไปแล้ว การรักษาด้วยวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ฟันกลับมาขาวขึ้นได้
การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening): เป็นการรักษาโดยทันตแพทย์ ใช้สารฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อเปลี่ยนสีฟันให้ขาวขึ้น
การทำวีเนียร์ (Veneers): เป็นการติดแผ่นเคลือบฟันเทียมที่มีสีขาวเพื่อปกปิดผิวฟันเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสีฟันอย่างถาวร