ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ต้องการเสริมเส้นใยอาหาร  (อ่าน 47 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 217
  • เครื่องจักรอุตสาหกรรม,สินค้าอุตสาหกรรม
    • ดูรายละเอียด
อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ต้องการเสริมเส้นใยอาหาร

อาหารทางการแพทย์ เป็นอาหารที่ไม่ใช่ยาและไม่มีจุดประสงค์ในการรักษาโรค ใช้ในการบำบัดอาการเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค ผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตาม หรือร่างกายอยู่ในภาวะที่ต้องการสารอาหารบางอย่างมากหรือน้อยเป็นพิเศษ โดยที่ไม่สามารถบริโภคจากอาหารทั่วไป ปัจจุบันอาหารทางการแพทย์มีหลากหลายชนิดทั้งสำหรับผู้ใหญ่และทารก

ซึ่งแต่ละชนิดก็มุ่งเน้นให้ตรงกับความต้องการของร่างกายอย่างจำเพาะเจาะจง อาจอยู่ในรูปแบบที่ใช้กินหรือดื่มแทนอาหารหลัก ดื่มเพื่อเสริมอาหารบางมื้อ หรือใช้เป็นอาหารทางสายยางในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ หรือผู้ป่วยที่หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ซึ่งอาหารทางการแพทย์สามารถให้สารอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการสารอาหารใด สารอาหารหนึ่ง ให้มากหรือน้อยตามความต้องการของร่างกายได้ สำหรับวันนี้ ทางเราจะมาพูดถึงอาหารทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่มีความต้องการเสริมอาหารประประเภทเส้นใยอาหาร ซึ่งถือว่าดีต่อระบบการขับถ่ายและยังช่วยให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลที่พอดีด้วย

สำหรับเส้นในอาหารนั้น คือ ส่วนของพืชผัก ผลไม้ หรือเมล็ดธัญพืชที่มนุษย์ได้รับประทานเข้าไป แต่จะไม่ถูกย่อยโดยน้ำย่อยของคน (จึงไม่ให้พลังงาน) แต่อาจจะถูกย่อยโดยจุลินทรีย์บางชนิดในทางเดินอาหารของมนุษย์ ซึ่งเส้นใยอาหารจะมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำและใยอาหารชนิดละลายน้ำ ซึ่งใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ คือเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ทำให้เพิ่มปริมาตรน้ำในกระเพาะอาหาร ช่วยเพิ่มกากอาหาร และช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร  เส้นใยชนิดนี้แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะไม่สามารถย่อยได้ จึงช่วยเพิ่มเนื้ออุจจาระ ลดปัญหาอาการท้องผูก และช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย ต่อมาใยอาหารชนิดละลายน้ำคือ เส้นใยอาหารที่ละลายได้ในน้ำแล้วดูดซับน้ำไว้กับตัว ใยอาหารชนิดนี้เมื่อละลายน้ำจึงมีความหนืดเพิ่มขึ้น สามารถจับน้ำตาลและดูดซับน้ำมันได้


ซึ่งใยอาหารชนิดนี้ร่างกายของเราจะย่อยเองไม่ได้ แต่แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่จะสามารถย่อยได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเส้นใยอาหารเพิ่ม ควรรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ หรือผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีต ซึ่งมีกากใยอาหารมากกว่าขนมปังขาวถึง 3 เท่า รับประทานผักผลไม้ให้มากๆ และกินพืชตระกูลถั่วให้หลากหลาย และควรรับประทานผลไม้ทั้งเปลือก เช่น แอปเปิ้ล องุ่น ฝรั่ง ควรรับประทานผลไม้สดแทนการดื่มน้ำผลไม้คั้น หมั่นรับประทานผักที่กินทั้งต้นและก้านได้ให้มากขึ้น เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง เติมถั่วต่างๆ ลงในอาหาร เช่น ในสลัด ต้มจืด หรือแกงต่างๆ และที่สำคัญควรดื่มน้ำมากๆ เพราะเส้นใยอาหารจะทำงานได้ดีต้องมีน้ำช่วย สำหรับผู้ที่ไม่ชอบการรับประทานผักสด ผลไม้มากๆ มาก่อน ควรจะเพิ่มปริมาณอาหารที่มีกากใยทีละน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบย่อยอาหารเกิดอาการปั่นป่วน

ถึงแม้ว่า เส้นใยอาหารจะมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายย่อยไม่ได้ แต่ก็ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งได้แก่ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่หลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและการขับถ่าย ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันและช่วยควบคุมโรคเบาหวาน เส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ มีคุณสมบัติที่ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะได้นานขึ้น จึงทำให้รู้สึกอิ่มได้นานกว่า ขณะเดียวกันยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลกลู-โคสเข้าสู่กระแสเลือดช้าลงด้วย เป็นการช่วยปรับระดับน้ำตาลให้คงที่ และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

เพราะเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้สามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด โดยที่เส้นใยอาหารชนิดนี้จะเข้าไปรวมตัวกับคอเลสเตอรอล ทำให้คอเลสเตอรอลบางส่วนไม่ถูกดูดซึมในลำไส้เล็ก แต่ถูกกำจัดออกจากร่างกายไปพร้อมกับกากอาหารอื่นๆ  สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เส้นใยอาหารยังช่วยควบคุมน้ำหนัก สำหรับผู้ที่อยากมีรูปร่างดี น้ำหนักมาตรฐาน การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารมากจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น เพราะคุณสมบัติที่อุ้มน้ำของเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ จะทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน แต่ได้รับพลังงานลดลง

อย่างไรก็ตามทางเราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ และต้องหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงต้านทานโรคต่างๆได้อีกด้วย