ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: เลือกให้เหมาะสม ความต่างระหว่าง “รากฟันเทียม” กับ “สะพานฟัน”  (อ่าน 82 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 219
  • เครื่องจักรอุตสาหกรรม,สินค้าอุตสาหกรรม
    • ดูรายละเอียด
จัดฟันบางนา: เลือกให้เหมาะสม ความต่างระหว่าง “รากฟันเทียม” กับ “สะพานฟัน”

ต้องขอบอกเลยว่าในยุคสมัยที่นวัตกรรมทางทันตกรรมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ได้มีการคิดค้นวิเคราะห์วิจัย จนเกิดการรักษาในรูปแบบต่างๆขึ้นมามากมาย เพื่อให้คนไข้ได้มีส่วนร่วมในการเลือกอย่างเหมาะสม

มีหลายท่านที่ได้สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไปแล้วไม่ทราบว่าควรทำการรักษาอย่างไรถึงจะดีที่สุด เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง ซึ่งในสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีเพียงการใส่ฟันปลอมแบบสวมถอดปกติที่เป็นที่นิยม แต่ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมีการวิเคราะห์วิจัยต่างๆถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เจอสิ่งที่ดีที่สุด จึงทำให้มีการทำฟันเทียม หรือกระบวนการทดแทนฟันแท้ตามธรรมชาติที่สูญเสียไปให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ หลากหลายความสามารถ รวมถึงหลากหลายความเหมาะสม

ในวันนี้จึงจะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับกระบวนการทำฟันเทียม 2 รูปแบบที่เป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ นั่นก็คือการทำ “รากฟันเทียม” และ “สะพานฟัน”

ซึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้หลายๆท่านอาจจะแยกแยะความต่างกันของทั้งสองวิธีนี้ไม่ออกจึงทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกทำอะไรดี ในเมื่อผลลัพธ์ตามความคิดของคนไข้นั้นเหมือนกัน แต่ต้องขอบอกเลยว่าทั้งสองวิธีนี้มีความเหมือนและแตกต่าง มีข้อเสียและข้อดีต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


“การทำรากฟันเทียม” และ “การทำสะพานฟัน” แตกต่างกันอย่างไร ?

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าทั้งสองแบบไม่ว่าจะเป็นการทำรากฟันเทียม หรือ การทำสะพานฟัน ก็คือกระบวนการทำฟันปลอม หรือที่ทางทันตแพทย์เรียกว่า ฟันเทียม จุดประสงค์เพื่อใช้ทดแทนฟันจริงที่เสียหายเป็นอย่างมากถึงขั้นต้องสูญเสียไปในที่สุด

อย่างที่ทราบกันดีว่าการสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบมากมายต่อสุขภาพช่องปากที่ดีในอนาคต และการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก

โดยหากว่าท่านสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไป ก็อาจจะทำให้ท่านมีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวอาหาร หากว่าสูญเสียฟันหน้าก็อาจจะส่งผลให้เสียบุคลิกภาพไม่กล้าที่จะพูดคุยกับใคร หรือไม่กล้ายิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงการออกเสียงในการพูดคุยไม่ชัดเจนเท่าที่ควร และถ้าหากว่าปล่อยทิ้งไว้โดยที่ไม่ทำการรักษาในระยะยาวก็อาจจะส่งผลให้ฟันที่เหลืออยู่ในช่องปากเกิดการล้มเสียหายตามมาเป็นวงกว้างในระยะยาวได้นั่นเอง ซึ่งวิธีการรักษาก็คือการใส่ฟันปลอมเป็นหนึ่งในทางที่ดีที่สุด โดยการทำฟันปลอมนั้นมีด้วยกันหลัก 2 วิธีที่กำลังเป็นที่นิยมนั่นก็คือ การทำรากฟันเทียม และ การทำสะพานฟัน โดยมีความแตกต่างดังต่อไปนี้

   
การใส่สะพานฟันแบบติดแน่น

การทำสะพานฟันถือได้ว่า เป็นการทำฟันปลอมแบบติดแน่นวิธีหนึ่ง ซึ่งจะอาศัยฟันแท้ตามธรรมชาติข้างเคียงที่ไม่สูญเสียเป็นตัวยึดติด โดยไม่สามารถถอดใส่ได้ด้วยตนเองแบบฟันปลอมตามปกติทั่วไป พูดง่ายๆก็คือ การเติมเต็มฟันในช่องว่างที่หายไป โดยอาศัยฟันข้างเคียง วิธีการหลักๆในการทำสะพานฟันก็คือ การกรอฟันบริเวณหัวและท้ายของช่องว่างให้มีขนาดซี่ที่เล็กลง หลังจากนั้นจะเริ่มทำสะพานฟันสามซี่เพื่อยึดติดซี่ข้างเคียงกับฟันปลอมที่กำลังจะสวมใส่ลงไปนั่นเอง


ข้อดีของการทำสะพานฟัน

มีค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อย ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดให้เกิดการบาดเจ็บ ได้ฟันปลอมแบบติดแน่นที่มีความเป็นธรรมชาติและมีความแข็งแรงสูง


ข้อเสียของการทำสะพานฟัน

การทำสะพานฟันนั้นจำเป็นต้องกรอฟัน ซึ่งนั่นเองที่ทำให้ท่านอาจจะต้องแลกมาด้วยการเสียเนื้อฟันที่ดีรอบข้าง และการทำความสะอาดนั้นจะถือได้ว่ายุ่งยากกว่าปกติพอสมควรเนื่องจากว่าท่านจำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันสอดไปทำความสะอาดใต้สะพานฟันทุกครั้ง เพราะ ใต้สะพานฟันมักมีเศษอาหารเข้าไปติดเป็นจำนวนมาก

   
การใส่รากฟันเทียม

ถือได้ว่าเป็นการทำฟันปลอมแบบติดแน่นอีกวิธีหนึ่ง ที่กำลังเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นธรรมชาติของฟัน และสะดวกสบายในการทำความสะอาด ซึ่งการใส่รากฟันเทียมจะเป็นการฝังรากเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกรบริเวณที่สูญเสียฟัน และจึงจะทำการใส่ครอบฟันเทียมอีกที ก็จะได้ฟันปลอมที่เหมือนฟันแท้ตามธรรมชาติมากที่สุด


ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม

ไม่ต้องเสียเนื้อฟันดีๆแบบการทำสะพานฟัน ทำความสะอาดง่ายไม่แตกต่างกับการทำความสะอาดฟันตามธรรมชาติไม่ยุ่งยาก ได้ฟันที่แข็งแรงคงทนเป็นธรรมชาติในการใช้งาน


ข้อเสียของการใส่รากฟันเทียม

มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ต้องมีการผ่าตัดซึ่งอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ