ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการให้อาหารสายยาง สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารเองได้  (อ่าน 2 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 630
  • เครื่องจักรอุตสาหกรรม,สินค้าอุตสาหกรรม
    • ดูรายละเอียด
วิธีการให้อาหารสายยาง สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารเองได้

การให้อาหารทางสายยางสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและต้องเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นอันดับแรกค่ะ

นี่คือขั้นตอนโดยละเอียดที่ผู้ดูแลควรปฏิบัติตาม โดยอ้างอิงจากวิธีการให้แบบเป็นรอบ (Bolus Method) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปที่บ้าน:

1. ⚙️ การเตรียมอุปกรณ์และอาหาร

ลำดับ                                   รายการอุปกรณ์                                             จุดประสงค์
1   อาหารเหลว ตามสูตรที่แพทย์หรือนักโภชนาการกำหนด (ปริมาณ 1 มื้อ)   ต้องเป็น อุณหภูมิห้อง ห้ามร้อนหรือเย็นเกินไป
2   น้ำสะอาด/น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว (ประมาณ 30–50 มล. ต่อรอบ)           ใช้สำหรับล้างสาย (Flushing) ก่อนและหลังให้อาหาร
3   กระบอกให้อาหาร (Syringe) ขนาดใหญ่ (เช่น 50–60 มล.) ที่ ถอดลูกสูบออกแล้ว   ใช้เทอาหารและน้ำเข้าสายยาง
4   ผ้าสะอาด หรือ ผ้ากันเปื้อน                                                          ใช้รองใต้สายยางเพื่อป้องกันอาหารหกเปื้อน


2. 👩‍⚕️ ขั้นตอนการให้อาหารทางสายยาง (Bolus Method)

A. ขั้นตอนก่อนให้อาหาร

จัดท่าผู้ป่วย: จัดให้ผู้ป่วยอยู่ใน ท่านั่งหรือท่าศีรษะสูง 30–45 องศา (คล้ายท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน) และคงท่านี้ไว้ตลอดเวลาที่ให้อาหาร และหลังให้เสร็จอย่างน้อย 30–60 นาที

เตรียมความพร้อม: ล้างมือให้สะอาด

ตรวจสอบสายยาง: ตรวจสอบตำแหน่งของปลายสายยางที่ออกมาจากรูจมูก (หรือบริเวณหน้าท้อง) ว่าอยู่ที่ตำแหน่งเดิมหรือไม่ ถ้ามีรอยทำเครื่องหมายไว้ ให้สังเกตว่าเครื่องหมายนั้นยังอยู่ตรงกับขอบรูจมูกหรือไม่

ทดสอบการย่อย (Residual Check):

ใช้กระบอกฉีดยาขนาดเล็ก (เช่น 10–20 มล.) ดูดน้ำย่อย ออกมาจากสายให้อาหาร

หากปริมาณน้ำย่อยที่ดูดออกมามีน้อยกว่า 50% ของปริมาณอาหารมื้อล่าสุด (หรือตามคำแนะนำของแพทย์) ให้เทน้ำย่อยกลับเข้าไปในสายยางตามเดิม แล้วเริ่มให้อาหารมื้อใหม่ได้

หากปริมาณน้ำย่อยมีมาก หรือผู้ป่วยมีอาการท้องอืด/คลื่นไส้: ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลก่อนให้อาหารมื้อถัดไป


B. ขั้นตอนการให้อาหาร

ล้างสายก่อน (Pre-Flush):

พับปลายสายยางให้อาหารไว้

ต่อกระบอกให้อาหาร (ที่ถอดลูกสูบแล้ว) เข้ากับสาย

เท น้ำสะอาด (10–20 มล.) ลงในกระบอก

คลายพับปลายสายเพื่อให้ น้ำไหลลงไปในกระเพาะอาหารช้าๆ จนหมด

ให้อาหาร:

พับปลายสายอีกครั้ง แล้วเท อาหารเหลว ลงในกระบอก

คลายพับปลายสาย ปล่อยให้อาหารไหลลงตามแรงโน้มถ่วง ห้ามดันอาหารโดยใช้ลูกสูบ

ควบคุมอัตราไหล: อาหาร 1 มื้อ ควรใช้เวลา 15–20 นาที โดยการปรับระดับความสูงของกระบอก (ยกสูงขึ้นไหลเร็ว, ลดต่ำลงไหลช้า)

ล้างสายหลัง (Post-Flush):

เมื่ออาหารในกระบอกเหลือใกล้หมด ให้รีบเทน้ำสะอาด (30–50 มล.) ตามลงไปทันที ก่อนที่อากาศจะเข้าไปในสาย

ปล่อยให้น้ำไหลลงไปจนหมด


C. ขั้นตอนหลังให้อาหาร

ปิดสายยาง: พับปลายสายและถอดกระบอกออก ปิดจุกสายยางให้แน่นหนา

จัดท่า: ให้ผู้ป่วย คงท่าศีรษะสูง 30–45 องศา ต่อไปอีกอย่างน้อย 30–60 นาที เพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของอาหารและลดความเสี่ยงการสำลัก

ทำความสะอาด: ล้างกระบอกให้อาหารและอุปกรณ์ด้วยน้ำสะอาด สบู่อ่อนๆ และตากให้แห้งเพื่อเตรียมใช้ในมื้อถัดไป


3. ⚠️ ข้อควรระวังในการให้อาหารและยา

ห้ามให้อาหาร/น้ำ/ยา เร็วเกินไป: การไหลที่เร็วเกินไปจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือคลื่นไส้ได้ง่าย

การให้ยา:

ต้อง บดยา ให้ละเอียดที่สุด และละลายในน้ำสะอาด แยกต่างหาก

ควรให้ยา ทีละชนิด และต้องล้างสายด้วยน้ำสะอาด 10–15 มล. คั่นระหว่างยาแต่ละชนิดเสมอ

ยาบางชนิดไม่สามารถบดได้ (เช่น ยาเม็ดเคลือบ, ยาออกฤทธิ์นาน) ต้องปรึกษาเภสัชกรก่อน

สุขอนามัย: ต้องล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังการสัมผัสสายยางหรือเตรียมอาหาร และทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ

การดูแลสายยาง: ทำความสะอาดรูจมูก/รอบสายยางด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น และตรวจดูว่ามีแผลหรือการอักเสบหรือไม่